แจกเช็คลิสต์ ! สร้างแบรนด์ครีมตัวเองครั้งแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไร

เผยแพร่เมื่อ27 August 2025

ใช้ 7 นาที ในการอ่าน

เทคนิคการสร้างแบรนด์

การเริ่มต้น สร้างแบรนด์ครีมตัวเอง ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ที่อยากมีธุรกิจเครื่องสำอางในยุคที่ตลาดความงามเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่การจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้อย่างมั่นคง ไม่ใช่เพียงการมีไอเดียหรือเงินลงทุนเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการ “เตรียมตัวให้พร้อม” ตั้งแต่ต้น เพื่อให้แบรนด์มีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด

1. ศึกษาตลาดและกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

ก่อนจะ ผลิตครีม หรือเริ่มสร้างแบรนด์ ควรรู้ก่อนว่า “ลูกค้าเราเป็นใคร” เช่น

  • วัยรุ่นที่ต้องการครีมรักษาสิว
  • วัยทำงานที่มองหาครีมบำรุงผิวหน้า
  • กลุ่มผู้รักสุขภาพที่ชอบครีมจากสารสกัดธรรมชาติ

การเจาะกลุ่มชัดเจน จะช่วยให้คุณพัฒนาสูตรและวางแผนการตลาดได้ตรงใจลูกค้า

บทความที่เกี่ยวข้อง รับผลิตครีม วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน แตกต่างกันอย่างไร?

2. วางคอนเซปต์สร้างแบรนด์และ USP (Unique Selling Point)

หากคุณกำลังสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง สิ่งที่ทำให้แบรนด์ครีมคุณแตกต่างจากคู่แข่งคือ คอนเซปต์และจุดขายเฉพาะ (USP) เช่น

  • ครีมบำรุงผิวจากสารสกัดออร์แกนิก
  • ครีมสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน
  • ครีมกันแดดที่ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

USP ที่ชัดเจนจะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ง่าย ซึ่งส่งผลต่อยอดขายของคุณอย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง สร้างแบรนด์เครื่องสำอางอย่างมืออาชีพ: ทำอย่างไรให้โดดเด่นในตลาด?

3. เลือกโรงงานผลิตครีมที่ได้มาตรฐาน

หนึ่งในหัวใจสำคัญของการ ทำแบรนด์ครีมตัวเอง คือการเลือกโรงงานผลิตที่เชื่อถือได้ ควรพิจารณา:

  • ได้มาตรฐาน GMP, ISO, อย., HALAL
  • มีบริการพัฒนาสูตร (OEM/ODM) ตามความต้องการในการสร้างแบรนด์
  • สามารถให้คำปรึกษาเรื่องการจดทะเบียน อย.และเรื่องกฎหมายอื่นๆที่จำเป็น
  • มีประสบการณ์และผลงานกับแบรนด์ดัง
    ควบคุมการผลิตเครื่องสำอางทุกขั้นตอน

บทความที่เกี่ยวข้อง โรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ไหนดี ที่สร้างแบรนด์แบบ OEM ได้

4. จัดการเรื่องกฎหมายและการจด อย.

เรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ครีมทุกชนิด ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ควรกำหนดและเตรียมการด้านการตรวจสอบและเอกสาร หลายคนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน วันนี้เรามี Check List เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายเครื่องสำอาง ที่คนสร้างแบรนด์ครั้งแรกควรทราบ ตามตารางด้านล่างนี้

✅ Checklist กฎหมาย & การจด อย. (สำหรับแบรนด์ครีมมือใหม่)

ขั้นตอนย่อย สิ่งที่ต้องเตรียม/ทำ ใครรับผิดชอบ เช็ค ✔️
1) เช็กให้ชัดว่า “เป็นเครื่องสำอาง” ยืนยันว่าเข้านิยามเครื่องสำอาง (ทาบนภายนอก เพื่อทำความสะอาด/เสริมสวย/ระงับกลิ่น ฯลฯ) ไม่ใช่ยา/เวชภัณฑ์ เจ้าของแบรนด์
2) ตรวจส่วนผสมให้ถูกกฎ ตรวจ “สารต้องห้าม/จำกัดการใช้/สารกันเสีย/สารกันแดด/สี” ตาม ACD (อาเซียน) และเงื่อนไขการใช้ โรงงาน + เจ้าของแบรนด์
3) เลือกผู้ “ผู้ยื่นจดแจ้ง” ผู้ยื่นได้แก่ ผู้ผลิต/ผู้รับจ้างผลิต/ผู้นำเข้า (ตกลงกับ OEM ว่าใครเป็นผู้ยื่นและรับผิดชอบเอกสาร) เจ้าของแบรนด์ + OEM
4) เตรียมบัญชี e-Submission เปิดบัญชีระบบ e-Submission ของ อย. (ใช้เลขบัตรปชช.ผู้แทน/ข้อมูลนิติบุคคล) ผู้ยื่นจดแจ้ง
5) เก็บเอกสารหลักให้ครบ • ข้อมูลองค์กร (สถานที่ผลิต/นำเข้า/เก็บ)

• รายละเอียดผลิตภัณฑ์: ชื่อไทย-อังกฤษ/ประเภท/จุดประสงค์/ขนาดบรรจุ/วิธีใช้/คำเตือน

• สูตรเต็ม (INCI) และเงื่อนไขของสารที่ถูกจำกัดการใช้

• แบบฟอร์ม “จ.ก.” (Jor.Kor.) + ไฟล์ฉลาก/Artwork (ภาษาไทย)

• หนังสือมอบอำนาจการใช้เครื่องหมายการค้า/อนุญาตให้ยื่นจด (กรณีแบรนด์ ≠ ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า)

ผู้ยื่นจดแจ้ง + เจ้าของแบรนด์ + OEM
6) ยื่น “จดแจ้งเครื่องสำอาง” ยื่นผ่านระบบ e-Submission / อย.กลาง / สสจ. ตามช่องทางที่กำหนด → ชำระค่าธรรมเนียม → รับ “เลขที่ใบรับจดแจ้ง” ผู้ยื่นจดแจ้ง
7) ตรวจฉลากภาษาไทยให้ครบถ้วน ข้อความบังคับหลัก: ชื่อ/ประเภท, ปริมาณสุทธิ, เลขที่ใบรับจดแจ้ง 10 หลัก, รายการส่วนผสม (INCI เรียงตามสัดส่วน), ชื่อ-ที่อยู่ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า, เลขรุ่นการผลิต (Lot/Batch), วันหมดอายุหรือสัญลักษณ์อายุการใช้หลังเปิด (PAO) ตามที่ใช้ได้, วิธีใช้/คำเตือนที่จำเป็น เจ้าของแบรนด์ + ดีไซน์เนอร์ + OEM
8) จัดทำ “PIF” (แฟ้มข้อมูลผลิตภัณฑ์) จัดทำและเก็บที่สำนักงานผู้รับผิดชอบ พร้อมตรวจได้: บทสรุปผลิตภัณฑ์, สูตร/สเปก, รายงานประเมินความปลอดภัย (CPSR), วิธีการผลิตตาม GMP, หลักฐานรองรับเคลม ฯลฯ เจ้าของแบรนด์/ผู้ยื่นจดแจ้ง (ร่วมกับ OEM)
9) โฆษณาให้ถูกกฎหมาย ข้อความต้องไม่เกินจริง/เป็นเท็จ/ชวนให้เข้าใจผิด (เลี่ยงเคลมรักษาโรค-เปลี่ยนโครงสร้างผิวแบบยา) และมีหลักฐานรองรับทุกเคลม ทีมการตลาด + เจ้าของแบรนด์
10) ต่ออายุ/อัปเดตข้อมูล ใบรับจดแจ้งมีอายุ 3 ปี (ยื่นต่ออายุล่วงหน้าได้ 6 เดือน) และต้องอัปเดตเมื่อสูตร/ชื่อ/ฉลาก/ผู้รับผิดชอบเปลี่ยน ผู้ยื่นจดแจ้ง
11) หลังวางขาย (กำกับดูแล) เก็บตัวอย่าง-บันทึกการผลิต/กระจายสินค้า, ระบบรับเรื่องร้องเรียน/เรียกคืน, พร้อมรับการสุ่มตรวจจาก อย. เจ้าของแบรนด์ + OEM

กรณี “นำเข้า” สำเร็จรูป (สรุปเพิ่ม): ต้องมีนิติบุคคลไทยหรือผู้แทนในไทยเป็นผู้ยื่น, เอกสารหลักมักรวม CFS/หนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของแบรนด์ต่างประเทศ, หลักฐาน GMP ของผู้ผลิตต่างประเทศ, ฉลากไทยครบถ้วนก่อนจำหน่าย และทำ PIF ในไทยพร้อมตรวจได้ ⬜

NOTE : สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือต้อง ขึ้นทะเบียน อย. เพื่อให้ลูกค้าซื้ออย่างมั่นใจ และเพื่อให้การทำตลาดปลอดภัยตามกฎหมาย นอกจากนี้ควรพิจารณาการจด ลิขสิทธิ์ชื่อแบรนด์และเครื่องหมายการค้า (Trademark) เพื่อปกป้องธุรกิจในระยะยาว

บทความที่เกี่ยวข้อง โรงงานผลิตครีมขั้นต่ำเท่าไหร่ ผลิตน้อย 100 ชิ้นต้องขอ อย. ไหม? มือใหม่ต้องรู้ก่อนเริ่มแบรนด์

ผลิตครีมสูตรเฉพาะ ขอสิทธิบัตรได้ไหม? ไขข้อสงสัยเรื่องการคุ้มครองสูตรความงาม

5. ออกแบบบรรจุภัณฑ์และโลโก้ให้โดดเด่น

แพ็กเกจจิ้งคือสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาลูกค้า ดังนั้นการออกแบบควรสะท้อนคาแรกเตอร์แบรนด์ เช่น

  • ใช้โทนสีอ่อนสำหรับความเป็นธรรมชาติ
  • ใช้ดีไซน์มินิมอลเพื่อความทันสมัย
  • เพิ่มจุดขายด้วยข้อความ เช่น “อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย”

นอกจากนี้ ยังต้องเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของแบรนด์ ว่าสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อย่างแน่นอน

บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

6. วางแผนการตลาดออนไลน์ตั้งแต่เริ่มต้น

ในยุคดิจิทัล การสร้างแบรนด์ครีมไม่ใช่แค่การผลิต แต่ต้องมีแผนโปรโมททั้งออนไลน์ เช่น

  • ทำเพจ Facebook, Instagram, TikTok
  • ลงโฆษณาออนไลน์ (Facebook Ads, Google Ads)
  • ทำ SEO เว็บไซต์ด้วยคีย์เวิร์ด “ผลิตครีม, สร้างแบรนด์ครีม, โรงงานผลิตครีม”
  • ร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์รีวิว

รวมถึงงานออฟไลน์อื่นๆ เช่น

  • การติดต่อวางจำหน่าย พร้อมจัดงานอีเว้นต์ ณ จุดขาย
  • ลงทุนซื้อป้ายโฆษณา ป้ายประกาศ บิลบอร์ด ตามจุดที่คนสามารถเห็นโฆษณาได้มากที่สุด
  • การซื้อโฆษณทีวี เป็นสปอนเซอร์รายการทีวีต่างๆ เพื่อให้แบรนด์ถูกพูดถึงและเป็นที่จดจำ

 

7. บริหารต้นทุนและวางแผนการเงิน

การลงทุนทำแบรนด์ครีมมีทั้งต้นทุนการผลิต ค่าออกแบบแพ็กเกจจิ้ง ค่าโฆษณาและการตลาด ดังนั้นควรวางแผนการเงินล่วงหน้า เช่น

  • งบขั้นต่ำในการผลิตล็อตแรก
  • ค่าการตลาดที่ใช้ดึงดูดลูกค้า
  • กำไรต่อหน่วยที่คาดหวัง

บทความที่เกี่ยวข้อง ใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะสร้างแบรนด์เครื่องสำอางได้ในปี 2025?

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอแจก Check List ที่เหมาะสำหรับมือใหม่สร้างแบรนด์ครีมตัวเองครั้งแรก ได้นำไปใช้

✅ Checklist การเตรียมตัวสร้างแบรนด์ครีมครั้งแรก

ขั้นตอน สิ่งที่ต้องทำ เช็ค ✔️
1. ศึกษาตลาดและลูกค้าเป้าหมาย – หาข้อมูลว่าลูกค้าอยากได้ครีมแบบไหน (ครีมสิว, ครีมบำรุงผิว, ครีมกันแดด)

– วิเคราะห์คู่แข่ง

2. กำหนดคอนเซปต์แบรนด์ – เลือก USP หรือจุดขายที่แตกต่าง (เช่น ออร์แกนิก, ผิวแพ้ง่าย, ซึมไว)

– ตั้งชื่อแบรนด์ที่จดจำง่าย

3. เลือกโรงงานผลิตครีม – ตรวจสอบมาตรฐาน GMP, ISO, อย., HALAL

– ดูรีวิวและผลงานที่ผ่านมา

4. สูตรและการทดสอบผลิตภัณฑ์ – คุยกับโรงงานเรื่องสูตรที่ต้องการ

– ทดลองใช้จริงและเก็บ Feedback

5. จัดการเรื่องกฎหมาย – ขึ้นทะเบียน อย. ให้ถูกต้อง

– จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark)

6. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ – เลือกดีไซน์ โลโก้ และแพ็กเกจจิ้งที่ตรงกับแบรนด์

– ใส่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ตามกฎหมาย

7. วางแผนการตลาด – เปิดเพจโซเชียล (Facebook, IG, TikTok)

– วางกลยุทธ์โฆษณาออนไลน์และรีวิว

8. วางแผนการเงิน – คำนวณต้นทุนการผลิตและการตลาด

– กำหนดราคาขายและกำไรต่อหน่วย

9. เตรียมช่องทางการขาย – ออนไลน์ (Shopee, Lazada, Website, Social Media)

– ออฟไลน์ (ร้านขายของ, คลินิกความงาม)

10. วางระบบบริการลูกค้า – เตรียมทีมตอบแชท/คอมเมนต์

– บริการหลังการขายและการรับประกัน

วางแผนผลิตครีมกันแดด

สรุป

การ สร้างแบรนด์ครีมตัวเองครั้งแรก ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเตรียมตัวอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ตลาด วางคอนเซปต์ เลือกโรงงานผลิตครีมที่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์และทำการตลาดออนไลน์ หากวางแผนดีตั้งแต่เริ่ม แบรนด์ของคุณก็จะมีโอกาสเติบโตและสร้างยอดขายได้จริงในตลาดความงามที่แข่งขันสูง หากกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่จะทำให้แบรนด์คุณประสบความสำเร็จ ติดต่อโรงงานชาร์มคอสเมท ได้เลยค่ะ

 

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ นโยบายความเป็นส่วนตัวนโยบายการใช้คุกกี้